วิธีวาดภาพลวงตา แบบง่ายๆทีละขั้นตอน

ภาพลวงตา เป็นสิ่งที่สะกดใจมนุษย์มาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม ทั้งในรูปแบบของงานจิตรกรรม และสถาปัตยกรรม ไปจนถึงงานศิลปะร่วมสมัยที่เราพบเห็นได้ในปัจจุบันบนสื่อสังคมออนไลน์ ความน่าหลงใหลนี้เกิดจากความรู้สึกที่ว่าภาพลวงตาเหล่านี้ท้าทายขอบเขตของการรับรู้ และกฎฟิสิกส์ที่เราเข้าใจอยู่เสมอ และความน่าหลงใหลนี้ยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน แต่คุณทราบหรือไม่ว่า คุณสามารถสร้างสรรค์ภาพลวงตาเหล่านี้ได้ด้วยเพียงแค่ปากกาและกระดาษ? ในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับภาพลวงตา และสอนวิธีสร้างสรรค์ภาพลวงตาถึง 3 รูปแบบให้คุณได้ลองวาดตาม

ไขปริศนาภาพลวงตา: ภาพลวงตาคืออะไรกันแน่?

ก่อนที่จะเริ่มลงมือวาด เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ภาพลวงตาคืออะไร พูดให้เข้าใจง่ายที่สุด ภาพลวงตาก็คือการที่เรามองเห็นสิ่งหนึ่ง แต่สิ่งนั้นไม่ได้มีอยู่จริง การรับรู้ที่ผิดเพี้ยนไปนี้ เกิดขึ้นจากกระบวนการที่สมองของเราประมวลผลและวิเคราะห์ภาพ ซึ่งบางครั้งก็ทำให้เรามองเห็นภาพบิดเบือนไปจากความเป็นจริงนั่นเอง

ภาพลวงตาโดยทั่วไปสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ ภาพลวงตาทางกายภาพ (Literal illusions), ภาพลวงตาทางสรีรวิทยา (Physiological illusions) และ ภาพลวงตาทางปัญญา (Cognitive illusions)

  • ภาพลวงตาทางกายภาพ เกิดจากหลักการทางฟิสิกส์ เช่น การสะท้อนหรือการหักเหของแสง
  • ภาพลวงตาทางสรีรวิทยา เกิดจากกลไกการทำงานของดวงตาและระบบการมองเห็นของเรา
  • ภาพลวงตาทางปัญญา เกิดจากวิธีที่จิตใจของเราตีความภาพที่มองเห็น

ภาพลวงตาทางกายภาพที่น่าสนใจอย่างหนึ่งคือ ภาพลวงตาปอนโซ (Ponzo illusion) ซึ่งเป็นภาพที่ทำให้เส้นสองเส้นที่เท่ากันดูเหมือนมีความยาวไม่เท่ากัน เนื่องจากมีเส้นที่บรรจบกันล้อมรอบ ภาพลวงตานี้เกิดขึ้นเพราะสมองของเราตีความว่า เส้นที่บรรจบกันนั้นเป็นเส้นขนานในโลกแห่งความเป็นจริง จึงทำให้เราเข้าใจความยาวของเส้นทั้งสองผิดไป

ในขณะที่ภาพลวงตาทางสรีรวิทยาที่เป็นที่รู้จักดีคือ ภาพลวงตาแบบตารางแฮร์มันน์ (Hermann grid illusion) ซึ่งทำให้คุณมองเห็นจุดสีดำตรงบริเวณที่เส้นสีขาวตัดกันบนตารางสี่เหลี่ยมสีดำ ภาพลวงตาชนิดนี้เกิดจากกระบวนการประมวลผลความตรงข้าม(Contrast) ในจอประสาทตาของเรา ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของการทำงานของระบบการมองเห็นนั่นเอง

และนี่คือเหตุผลที่ภาพลวงตาทางปัญญา (cognitive illusions) สามารถบงการความเชื่อของเราที่มีต่อโลกรอบตัวได้ ตัวอย่างที่พบบ่อยคือ ภาพลวงตาแบบมุลเลอร์-ไลเยอร์ (Muller-Lyer illusion) ซึ่งทำให้เส้นสองเส้นที่มีความยาวเท่ากันดูเหมือนสั้นยาวไม่เท่ากัน เพียงเพราะมีสัญลักษณ์คล้ายหัวลูกศรอยู่ที่ปลายทั้งสองข้าง สมองของเราจะตีความสัญลักษณ์เหล่านี้ว่าเป็นสัญญาณบอกระยะความลึก จึงทำให้เรามองเห็นเส้นทั้งสองมีความยาวที่ต่างกัน

ภาพลวงตาหลอกสมองเราได้อย่างไร?

นอกจากการเรียนรู้วิธีวาดภาพลวงตาอย่างง่ายแล้ว เราจำเป็นต้องเข้าใจหลักการทำงานของมันด้วยเช่นกัน ภาพลวงตาใช้ประโยชน์จากข้อจำกัดและอคติในการมองเห็นของเรา สมองของเราพยายามตีความสิ่งที่เห็นและสรุปผลออกมาอยู่เสมอ แต่ในบางครั้งกระบวนการเหล่านี้ก็ทำให้เกิดภาพลวงตาขึ้นได้

เหตุผลหนึ่งที่ทำให้เกิดภาพลวงตาคือสมองของเราถูกตั้งโปรแกรมให้จดจำรูปทรงและรูปแบบที่คุ้นเคย เมื่อเรามองเห็นภาพที่ไม่เป็นไปตามที่เราคาดไว้ หรือเป็นภาพที่ไม่สอดคล้องกับความรู้เดิมของเรา สมองจะไม่สามารถทำความเข้าใจภาพนั้นได้อย่างถูกต้อง จึงเกิดเป็นภาพลวงตาขึ้นมา

ตัวอย่างเช่น ใน ภาพลวงตาสามเหลี่ยมที่เป็นไปไม่ได้ (impossible triangle illusion) สมองของเราพยายามทำความเข้าใจมุมและจุดเชื่อมต่อที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นวัตถุสามมิติ แต่สิ่งนี้ขัดแย้งกับความรู้เรื่องทัศนมิติและเรขาคณิตของเราอย่างสิ้นเชิง จึงทำให้เกิดเป็นภาพลวงตาขึ้นนั่นเอง

อีกสาเหตุหนึ่งของปรากฏการณ์นี้คือวิธีการที่สมองของเราประมวลผลเรื่องความลึก ความแตกต่าง และสี ดวงตาของเราถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรับรู้แสงและการเปลี่ยนแปลงของสี แต่บางครั้งก็อาจถูกหลอกได้ด้วยการผสมผสานของสีหรือลวดลายบางอย่างที่สร้างภาพลวงตาเรื่องความลึกหรือการเคลื่อนไหว

ตัวอย่างที่ดีคือ ภาพลวงตาแนวกำแพงร้านกาแฟ (cafe wall illusion) ที่ทำให้เส้นยาแนวระหว่างกระเบื้องดูเอียงหรือโค้งงอ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่สมองของเราประมวลผลความแตกต่างและสี จนสร้างภาพลวงตาขึ้นในจิตใจนั่นเอง

ข้อสังเกตคือ ภาพลวงตาไม่ได้เป็นเพียงแค่กลเม็ดหรือมายากลทางสายตาเท่านั้น แต่เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจริง มันช่วยให้เราเข้าใจการทำงานของสมองและดวงตาได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ด้วยการศึกษาภาพลวงตาเหล่านี้ นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยจึงสามารถทำความเข้าใจกระบวนการรับรู้ การเรียนรู้ และการประมวลผลทางสายตาได้อย่างถ่องแท้นั่นเอง

มาสร้างสรรค์ภาพลวงตาด้วยมือคุณเอง: คู่มือฉบับเต็มแบบทีละขั้นตอน

เราได้ทำความรู้จักกับภาพลวงตาและหลักการทำงานของมันไปแล้ว ตอนนี้ได้เวลามาลองวาดภาพลวงตาตามขั้นตอนกันบ้าง! คู่มือนี้จะสอนวิธีวาดภาพลวงตาถึง 3 แบบ เริ่มจาก ภาพลวงตาหลุม 3 มิติ (3D Hole Optical Illusion) ตามด้วย ภาพลวงตาวงรีที่เป็นไปไม่ได้ (Impossible Oval) และปิดท้ายด้วย ภาพลวงตาสามเหลี่ยม 3 มิติ (3D Triangle Optical Illusion)

1. วิธีวาดภาพลวงตาหลุม 3 มิติ (3D Hole Optical Illusion)

ภาพลวงตาชนิดนี้ทำให้พื้นผิวที่เรียบดูเหมือนมีหลุมขนาดใหญ่แบบสามมิติอย่างชัดเจน นับเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของภาพลวงตาทางกายภาพ ซึ่งใช้คุณสมบัติทางกายภาพของภาพมาหลอกสมองของเราให้เข้าใจว่ามีมิติความลึกอยู่จริง

ขั้นตอนที่ 1: อันดับแรก ให้วาดวงกลมเล็ก ๆ และวงรีขนาดใหญ่ โดยให้วงกลมเล็กอยู่ด้านล่างของวงรี

ขั้นตอนที่ 2: วาดวงรีเพิ่มอีกหลายวง โดยให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จากวงกลมเล็ก ๆ ไปจนถึงวงรีขนาดใหญ่ พร้อมกับเว้นระยะห่างให้มากขึ้นด้วย

ขั้นตอนที่ 3: จากนั้นให้วาดเส้นทัศนมิติที่ลากออกมาจากจุดศูนย์กลาง และใช้เทคนิคการสร้างภาพให้ดูโค้งนูน เพื่อให้ภาพนั้นดูเหมือนพองออกมาด้านนอก

ขั้นตอนที่ 4: ลบเส้นส่วนเกินที่อยู่นอกวงรีออกไป จากนั้นลงสีดำสลับกันเป็นบล็อกอย่างเป็นระเบียบ คุณสามารถลงสีฝั่งหนึ่งให้เสร็จก่อน แล้วคัดลอกส่วนที่ลงสีแล้วไปวางกลับด้านอีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาได้ถึงครึ่งหนึ่ง

ขั้นตอนที่ 5: สุดท้าย ให้วาดบล็อกสีขนาดใหญ่จากวงกลมที่เล็กที่สุด และค่อย ๆ ลดความทึบแสงของวงรีที่ใหญ่ขึ้น จากนั้นจึงเบลอภาพ ลบเส้นร่างออก เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว

ภาพลวงตานี้เล่นกับอคติที่สมองของเรามีต่อเรื่องความลึกและทัศนมิติ วงรีที่ซ้อนกันและลวดลายตารางหมากรุกทำให้ดูคล้ายอุโมงวงก้นหอย ส่วนการแรเงาตรงกลางก็ยิ่งเพิ่มความสมจริงให้ดูมีมิติความลึกมากขึ้น

ในเชิงตรรกะแล้ว เราทุกคนต่างรู้ดีว่าภาพวาดบนพื้นผิวที่เรียบเป็นเพียงแค่ภาพวาด แต่เมื่อเรามองจากมุมหนึ่ง สมองของเรากลับตีความภาพที่เรียบนั้นให้กลายเป็นหลุมสามมิตินั่นเอง

2. วิธีวาดภาพลวงตาวงรีที่เป็นไปไม่ได้ (Impossible Oval)

ภาพลวงตาชิ้นต่อไปนี้มีชื่อว่า ภาพลวงตาวงรีที่เป็นไปไม่ได้ (Impossible Oval) จัดอยู่ในกลุ่มภาพลวงตาทางปัญญา ซึ่งเป็นภาพที่สมองของเราไม่สามารถทำความเข้าใจรูปทรงที่สร้างขึ้นได้

ขั้นตอนที่ 1: อันดับแรก ให้วาดรูปวงรีคล้ายเมล็ดอัลมอนด์ พร้อมจุดสองจุดที่อยู่คนละด้านของรูปทรง

ขั้นตอนที่ 2: ถัดมา ให้วาดเส้นสั้น ๆ ลงมาจากจุดทางด้านซ้าย และวาดเส้นสั้น ๆ ขึ้นมาจากจุดทางด้านขวา

ขั้นตอนที่ 3: ลากเส้นเชื่อมต่อกันและวาดวงกลมต่อเนื่องล้อมรอบ จากนั้นคุณจะเริ่มเห็นรูปทรงที่เป็นไปไม่ได้นี้ได้อย่างชัดเจนขึ้น

ขั้นตอนที่ 4: ลบเส้นที่ซ้อนทับหรือส่วนที่ไม่สมบูรณ์ออก เพื่อให้ได้รูปทรงที่เรียบเนียนและต่อเนื่อง

ขั้นตอนที่ 5: เพิ่มเงา โดยการแรเงาให้เข้มขึ้นที่ด้านในของรูปทรงและให้แรเงาจางลงที่ด้านนอก จะทำให้ภาพดูมีมิติแบบสามมิติที่สมจริง

เมื่อมองภาพลวงตานี้ สมองจะพยายามตีความให้เป็นวัตถุสามมิติ แต่รูปทรงที่ขัดแย้งกันจะทำให้สมองประมวลผลได้ยาก ก่อให้เกิดเป็นภาพที่บิดเบือนและน่าทึ่ง

ภาพลวงตาวงรีที่เป็นไปไม่ได้นี้ขัดแย้งกับความคาดหวังที่สมองมีต่อการจัดวางวัตถุในพื้นที่สามมิติโดยสิ้นเชิง แม้สมองจะสามารถมองเห็นรูปทรงสองมิติอย่างวงกลมและวงรีได้อย่างง่ายดาย แต่ในภาพลวงตานี้ สมองของเรากลับไม่สามารถทำความเข้าใจวงวนที่เป็นไปไม่ได้ซึ่งเกิดจากเส้นโค้งเหล่านี้ได้ การแรเงานอกจากจะช่วยเพิ่มมิติความลึกและปริมาตรแล้ว ยังช่วยเสริมให้ภาพลวงตานี้ดูสมจริงยิ่งขึ้น แม้ว่าจะเป็นรูปทรงที่ไม่สามารถสร้างขึ้นได้จริงในโลกแห่งความเป็นจริงก็ตาม

3. วิธีวาดภาพลวงตาสามเหลี่ยม 3 มิติ (3D Triangle Optical Illusion)

ภาพลวงตาชิ้นสุดท้ายนี้เป็นตัวอย่างของวัตถุที่เป็นไปไม่ได้ (impossible object) ซึ่งดูเหมือนจะขัดต่อกฎเรขาคณิตและกฎทัศนมิติ

ขั้นตอนที่ 1: ขั้นแรก ให้วาดเส้นแนวนอนขึ้นมาหนึ่งเส้น จากนั้นคัดลอกเส้นดังกล่าวแล้วหมุนทวนเข็มนาฬิกา 60 องศา โดยใช้จุดซ้ายสุดเป็นจุดศูนย์กลาง เพื่อให้เกิดเป็นรูปสามเหลี่ยมหน้าจั่ว

ขั้นตอนที่ 2: ต่อปลายเส้นแต่ละด้านให้มีความยาวเท่ากัน โดยให้มีลักษณะคล้ายใบพัดกังหัน

ขั้นตอนที่ 3: จากนั้น ให้ต่อเส้นเพิ่มด้วยความยาวและทิศทางการหมุนในลักษณะเดิม เมื่อทำซ้ำหลายครั้งจะได้รูปทรงปริซึมที่มีโครงสร้างสามเหลี่ยมเป็นฐาน

ขั้นตอนที่ 4: เชื่อมช่องว่างที่อยู่ด้านนอกเข้าด้วยกัน เพื่อให้กลายเป็นรูปสามเหลี่ยม 3 มิติที่สมบูรณ์แบบและน่าทึ่ง

ขั้นตอนที่ 5: ลงสีพื้นฐาน จากนั้นเพิ่มเงาที่สว่างกว่าลงบนพื้นผิวด้านนอก เพื่อให้ได้รูปสามเหลี่ยม 3 มิติที่สมบูรณ์

เมื่อคุณมองภาพลวงตานี้ สมองจะพยายามตีความให้เป็นวัตถุสามมิติ แต่ด้วยมุมและจุดเชื่อมต่อที่ไม่สมเหตุสมผล ทำให้เกิดความย้อนแย้งทางสายตาที่ขัดกับตรรกะการรับรู้

ภาพลวงตาสามเหลี่ยมที่เป็นไปไม่ได้ (impossible triangle illusion) เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าสมองพยายามจะประนีประนอมข้อมูลทางสายตาที่ขัดแย้งกันได้อย่างไร แม้ว่าองค์ประกอบต่าง ๆ ของภาพ ทั้งเส้น การแรเงา และมุม จะสมเหตุสมผลในตัวของมันเอง แต่เมื่อนำมารวมกันแล้ว กลับกลายเป็นรูปทรงที่ไม่สามารถสร้างขึ้นได้จริงในพื้นที่สามมิติ เราจึงพยายามตีความภาพวาดนี้ให้เป็นวัตถุที่มีรูปทรงและจุดเชื่อมต่อที่ขัดแย้งกัน ส่งผลให้เกิดความย้อนแย้งทางสายตาที่สมองของเราไม่สามารถแก้ไขได้

ภาพลวงตานี้เผยให้เห็นถึงข้อจำกัดของระบบการมองเห็น รวมถึงการตั้งสมมติฐานและความรู้ที่สมองของเรายึดถือ แม้ในเชิงตรรกะเราจะรู้ว่ารูปทรงเหล่านี้ไม่สามารถมีอยู่จริงได้ แต่สมองก็ยังคงพยายามทำความเข้าใจอยู่ดี ซึ่งก่อให้เกิดเป็นภาพที่น่าสนใจและบางครั้งก็ชวนให้ทึ่งอย่างไม่น่าเชื่อ

นอกจากคำแนะนำแบบทีละขั้นตอนที่ได้กล่าวไปแล้ว การฝึกฝนและลองใช้วิธีการหรือสไตล์ที่หลากหลายจะช่วยให้คุณสร้างสรรค์ภาพลวงตาที่น่าประทับใจยิ่งขึ้นได้ อย่ากลัวที่จะทดลองใช้สี การแรเงา หรือแม้แต่รูปทรงเรขาคณิตแบบอื่น ๆ เพื่อดูว่าคุณจะสร้างสรรค์ภาพแบบไหนได้บ้าง และทั้งหมดนี้คือคู่มือการวาดภาพลวงตาแบบง่าย ๆ ทีละขั้นตอนของเราครับ

เคล็ดลับพิเศษ: แท็บเล็ตวาดรูปที่แนะนำสำหรับการวาดภาพลวงตา

แม้คุณจะสามารถสร้างสรรค์ภาพลวงตาได้ด้วยปากกาและกระดาษ แต่การใช้แท็บเล็ตสำหรับวาดรูปจะช่วยยกระดับฝีมือของคุณไปอีกขั้นได้อย่างแน่นอน และหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดในตลาดตอนนี้ก็คือ XPPen Magic Note Pad

XPPen Magic Note Pad  เป็นแท็บเล็ตที่ใช้งานได้ทั้งการวาดและเป็นแท็บเล็ตระบบ Android นั่นหมายความว่าคุณสามารถวาดและสร้างสรรค์ภาพลวงตาได้ทุกที่ โดยไม่ต้องเสียบสายเข้ากับคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้ แท็บเล็ตรุ่นนี้ยังรองรับแรงกดได้ถึง 16,384 ระดับ ซึ่งมากพอที่จะเก็บรายละเอียดแม้ความต่างของแรงกดเพียงเล็กน้อย ช่วยให้การแรเงาและลงเส้นมีความแม่นยำสูง ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างภาพลวงตาที่สมจริง

แต่สิ่งที่ทำให้ XPPen Magic Note Pad โดดเด่นอย่างแท้จริงคือจอแสดงผลแบบกระดาษ XPPen ได้รับการรับรองมาตรฐาน TÜV SÜD Low Blue Light และ Paper-like Display Certification รองรับการสลับระหว่างโหมดสีธรรมชาติ สีอ่อน และโหมดหมึกกระดาษ มอบประสบการณ์การวาดที่สบายตาและมือยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ภาพลวงตาที่ซับซ้อน ซึ่งต้องใช้ความแม่นยำสูงและใช้เวลานานหลายชั่วโมง

นอกจากนี้ ปากกาแบบ EMR ที่ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ ยังช่วยให้คุณวาดได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องชาร์จไฟ จึงไม่เป็นการขัดจังหวะการทำงานของคุณเลย

ด้วยอัตราการรีเฟรช 90Hz เมื่อเปรียบเทียบกับแท็บเล็ตแบบดั้งเดิมที่มีความล่าช้าสูง แท็บเล็ตนี้สามารถแสดงเนื้อหาที่ชัดเจนและไดนามิกได้ดีกว่า XPPen Magic Note Pad เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังและพกพาสะดวก เพื่อยกระดับการสร้างสรรค์ภาพลวงตาของคุณไปอีกขั้น ไม่ว่าจะเป็นการแรเงาโมเดลที่มีรายละเอียดซับซ้อน, การลงเส้น หรือการทดลองใช้ชุดสีต่าง ๆ หน้าจอคุณภาพสูงและหน่วยประมวลผลที่ทรงพลังของแท็บเล็ตนี้ จะมอบประสบการณ์การวาดที่ราบรื่นไร้ที่ติ

ในราคาเพียง 13,899 บาท XPPen Magic Note Pad จึงเป็นการลงทุนที่ยอดเยี่ยมสำหรับศิลปินและนักออกแบบทุกระดับฝีมือ ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือมืออาชีพ

XPPen Magic Note Pad

วิดีโอสอนวาดโดยละเอียด

บทสรุป

ภาพลวงตาเป็นสิ่งที่น่าสนใจและสนุกกับการสร้างสรรค์ หวังว่าขั้นตอนในบทความนี้จะช่วยให้คุณปลดปล่อยความเป็นนักมายากลในตัวออกมา และสร้างสรรค์ภาพลวงตาอันน่าทึ่งเพื่อเซอร์ไพรส์คนในครอบครัวและเพื่อน ๆ ได้นะครับ

สิ่งที่สำคัญที่สุดในการสร้างภาพลวงตาให้สำเร็จคือการเรียนรู้ว่าสมองของเราประมวลผลข้อมูลภาพอย่างไร เพื่อที่จะนำข้อจำกัดและอคติต่าง ๆ มาใช้ให้เกิดประโยชน์ รวมถึงศึกษาจากบทความสอนวาดภาพลวงตาแบบนี้ด้วย ไม่ว่าคุณจะสร้างภาพลวงตาแบบหลุม 3 มิติ, รูปทรงที่เป็นไปไม่ได้, หรือความย้อนแย้งทางเรขาคณิต ศิลปะของการวาดและการแรเงาล้วนเป็นหัวใจสำคัญของผลลัพธ์ที่ได้

หากคุณต้องการวาดภาพลวงตาได้อย่างเชี่ยวชาญ การลงทุนในแท็บเล็ตสำหรับวาดภาพดี ๆ สักเครื่องอย่าง XPPen Magic Note Pad ก็เป็นทางเลือกที่คุ้มค่า แท็บเล็ตรุ่นนี้มาพร้อมฟีเจอร์ที่ล้ำสมัยและมอบประสบการณ์การวาดที่ใช้งานง่ายสำหรับงานวาดทุกประเภท ไม่เพียงแค่การสร้างภาพลวงตาเท่านั้น

เอาล่ะ รออะไรอยู่ล่ะ? หยิบอุปกรณ์วาดภาพของคุณ หรือ XPPen Magic Note Pad ขึ้นมา แล้วดำดิ่งสู่โลกแห่งภาพลวงตากันได้เลย! บางทีคุณอาจจะสามารถสร้างสรรค์ภาพลวงตาชิ้นใหม่ที่กลายเป็นกระแสและทำให้ทุกคนต้องเกาหัวกันทั้งโลกก็เป็นได้ หรืออาจจะลองไปฝึกวาดภาพลวงตาแบบเคลื่อนไหวก็ยังได้นะ

บทความต้นฉบับ:

https://www.xp-pen.com/blog/how-to-draw-optical-illusions.html

เปรียบเทียบรุ่น