เทคนิคการวาดทัศนียภาพแบบ 2 จุดเบื้องต้น

เมื่อคุณเริ่มวาดรูปใหม่ๆ คุณอาจจะวาดตามตัวการ์ตูนหรือฉากต่างๆ โดยไม่ได้คำนึงถึงโครงสร้างหรือทัศนียภาพมากนัก แต่เมื่อเวลาผ่านไป คุณจะเริ่มรู้สึกว่างานวาดของคุณขาดความสมจริงและความสวยงามเมื่อเทียบกับนักวาดมืออาชีพ และนั่นคือจุดที่คุณจะค้นพบว่าทฤษฎีและเทคนิคทางศิลปะมีความสำคัญเพียงใด ซึ่งรวมถึง ทัศนียภาพแบบ 2 จุด ด้วย

ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกการวาดทัศนียภาพแบบ 2 จุด ในมุมมองสำหรับผู้เริ่มต้น เราจะอธิบายว่ามันคืออะไร และสอนวิธีนำไปประยุกต์ใช้กับการวาดรูปและการสังเกตสิ่งต่างๆ ในชีวิตจริง

ทุกคนที่เป็นศิลปินต่างก็เคยผ่านประสบการณ์การเริ่มต้นจากศูนย์มาแล้ว เราเข้าใจความรู้สึกที่ผสมผสานระหว่างความตื่นเต้นและความสับสน ดังนั้น จงเตรียมพร้อมที่จะเรียนรู้เทคนิคการวาดทัศนียภาพแบบ 2 จุด เพราะมันจะช่วยเพิ่มความลึกมิติ และความสมจริงให้กับผลงานของคุณได้อย่างน่าทึ่ง

ฉะนั้น คว้าสมุดสเก็ตช์ภาพ เหลาดินสอของคุณให้พร้อม แล้วมาร่วมเดินทางไปกับเราเพื่อค้นพบความงดงามเบื้องหลังการวาดทัศนียภาพแบบ 2 จุดกันเถอะ! มาเริ่มกันเลย!

Perspect drawing คือการวาดทัศนียภาพ

ก่อนที่เราจะพูดคุยเรื่อง ทัศนียภาพ (Perspective) เราต้องทำความเข้าใจแนวคิดของ การรับรู้เชิงพื้นที่ (Spatial Awareness) เสียก่อน 

ไม่ว่างานวาดหรือระบายสีจะใช้สไตล์ไหน หัวข้อของงานศิลปะนั้นมักจะอยู่ในพื้นที่แบบ 3 มิติ เพื่อที่จะสร้างความรู้สึกของพื้นที่ 3 มิติขึ้นมาใหม่บนผืนผ้าใบ 2 มิติที่แบนราบ คุณจำเป็นต้องมีความรู้สึกทางมิติสัมพันธ์ที่แน่นอน

ลองนึกภาพว่าคุณกำลังแก้โจทย์คณิตศาสตร์เรขาคณิตแบบ 3 มิติอยู่ก็ได้ครับ ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณมองเห็นบ้านหลังหนึ่ง คุณจะสามารถระบุภาพจากด้านหน้า ด้านข้าง หรือแม้กระทั่งมุมมองจากด้านบนได้ เมื่อมองเห็นบ้าน คุณต้องสามารถระบุตำแหน่งของหลังคา ผนัง พื้น และส่วนอื่นๆ และวาดตำแหน่งเหล่านั้นในพื้นที่ว่างเปล่าไว้ในใจได้

หากคุณยังขาดความเข้าใจในเรื่องการรับรู้เชิงพื้นที่ แนวโน้มในการวาดภาพของคุณก็จะยังคงเป็นการมองแบบ 2 มิติ ไม่ว่าจะเป็นการร่างภาพหรือการลงสี หากขาดความเข้าใจในเรื่องมิติสัมพันธ์แล้ว ผลงานที่ได้ก็จะดู ‘ผิดรูป’ และมีปัญหาด้านโครงสร้างในที่สุด

แล้ว การวาดทัศนียภาพ คืออะไร และเราจะฝึกฝนการรับรู้เชิงพื้นที่ได้อย่างไร นี่คือจุดที่เทคนิคการวาดทัศนียภาพเข้ามามีบทบาท

การวาดทัศนียภาพ คือเทคนิคการวาดภาพที่สร้างภาพลวงตาของความลึกในพื้นที่ หรือทัศนียภาพ โดยใช้เส้นเฉียงที่บรรจบกัน ณ จุดใดจุดหนึ่ง หรือหลายจุดในระยะไกล พูดง่ายๆ ก็คือ การวาดทัศนียภาพ มีเป้าหมายเพื่อแสดงวัตถุ 3 มิติบนหน้ากระดาษ 2 มิติ โดยศิลปินจะใช้เส้นเพื่อแสดงให้เห็นว่าวัตถุนั้นๆ ปรากฏต่อสายตาอย่างไร และจับรายละเอียดความแตกต่างของรูปร่างและขนาดของภาพวาดเอาไว้

การวาดทัศนียภาพมีความสำคัญในงานศิลปะเพราะช่วยให้วัตถุดูมีชีวิตชีวาขึ้นบนหน้ากระดาษ การใช้เทคนิคการวาดทัศนียภาพจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ในทางทัศนศิลป์ วัตถุที่อยู่ใกล้จะดูใหญ่กว่า และวัตถุที่อยู่ไกลจะดูเล็กลง หลักการเดียวกันนี้สามารถนำไปใช้กับการวาดภาพระบายสีได้ วิธีการวาดทัศนียภาพจะใช้ระยะห่างระหว่างวัตถุกับ จุดสิ้นสุด (Vanishing Point) เพื่อกำหนดระยะห่างของวัตถุบนระนาบ

ตามจำนวนจุดสิ้นสุดแล้ว การวาดทัศนียภาพสามารถแบ่งออกได้เป็น ทัศนียภาพแบบ 1 จุด และ ทัศนียภาพแบบ 2 จุด

คำศัพท์เฉพาะทางที่เกี่ยวข้องกับทัศนียภาพ

ก่อนที่เราจะลงลึกไปกว่านี้ เรามาพูดถึงคำศัพท์ทางเทคนิคที่เราจำเป็นต้องรู้เพื่อทำความเข้าใจแนวคิดของทัศนียภาพแบบ 2 จุดกันอย่างถ่องแท้ดีกว่า

เส้นขอบฟ้า (Horizon Line)

เส้นขอบฟ้า (Horizon Line) คือเส้นพื้นฐานที่แสดงระดับสายตาของเราที่มองไปยังงานศิลปะ เป็นเส้นแบ่งที่ตัดระหว่างพื้นดินกับท้องฟ้า หรือผืนน้ำกับท้องฟ้า เป็นต้น

เส้นระดับสายตา (Eye Level Line)

เส้นระดับสายตา คือมุมมองของดวงตาของเรา หากเป็นภาพถ่าย ก็คือมุมของเลนส์กล้อง ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดว่ามุมมองของคุณจะเป็นแบบ ระดับสายตา มุมสูง (นกมอง) หรือ มุมเงย (แหงนมอง)

Ground-level view (มุมมองระดับพื้น)

Aerial view ( มุมสูง, มุมมองทางอากาศ ,นกมอง )

Looking-up view ( มุมมองแบบแหงนมอง , มุมเงย )

จุดสิ้นสุด (Vanishing Point)

จุดสิ้นสุด (Vanishing Point) คือจุดที่เส้นขนานในภาพ ทัศนียภาพมาตัดกัน เป็นจุดที่เส้นขนานต่างๆ เช่น รางรถไฟ หรือขอบอาคาร ดูเหมือนจะมาบรรจบกันตรงจุดนั้น ด้วยการใช้จุดสิ้นสุด ศิลปินสามารถสร้างภาพลวงตาของความลึกและระยะทางในภาพวาด ทำให้ภาพดูสมจริงและมีมิติมากขึ้น

ตัวอย่างที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดคือทางหลวง คุณจะเห็นได้จากภาพด้านล่างว่า นอกจากเส้นที่ขนานกับเส้นขอบฟ้าแล้ว เส้นอื่นๆ ทั้งหมดจะค่อยๆ ไปบรรจบกันที่จุดใดจุดหนึ่ง ซึ่งก็คือ จุดสิ้นสุด (Vanishing Point) นั่นเอง

การวาดทัศนียภาพแบบ 2 จุด (Two-point perspective drawing) คืออะไร ?

จุดสิ้นสุดคือจุดที่เส้นขนาน เช่น รางรถไฟ หรือขอบอาคาร ดูเหมือนจะมาบรรจบหรือมาเจอกัน ด้วยการใช้จุดสิ้นสุด ศิลปินสามารถสร้างภาพลวงตาของความลึกและระยะทางในภาพวาด ทำให้ภาพดูสมจริงและมีมิติมากขึ้น

ทัศนียภาพแบบ 1 จุด (One-point perspective) จะใช้จุดสิ้นสุดเพียงจุดเดียวในการสร้างภาพ 3 มิติ เนื่องจากระดับสายตาขนานกับเส้นขอบฟ้า จุดสิ้นสุดจึงอยู่บนเส้นขอบฟ้าด้วยเช่นกัน ในการวาดทัศนียภาพแบบ 1 จุด เส้นทั้งหมดในภาพจะพุ่งไปรวมกันที่จุดสิ้นสุดจุดเดียวบนเส้นขอบฟ้า เทคนิคนี้มักถูกใช้เมื่อวาดภาพที่มีจุดรวมสายตาเพียงจุดเดียว เช่น ถนนที่ทอดยาว หรือโถงทางเดิน วัตถุในภาพจะดูเหมือนลู่เข้าสู่ระยะไกลจากจุดเดียวนั้น

ทัศนียภาพแบบ 1 จุด มักใช้สร้างภาพที่เรียบง่าย เช่น การวาดภาพห้องหรือถนนจากมุมด้านหน้า

ในทางกลับกัน ทัศนียภาพแบบ 2 จุด (Two-point perspective) จะใช้จุดสิ้นสุดสองจุดบนเส้นขอบฟ้า เทคนิคนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการวาดภาพที่มีหลายมุมและหลายเหลี่ยม เช่น ทิวทัศน์เมืองหรือภายในห้อง เส้นต่างๆ ในภาพจะพุ่งไปรวมกันที่จุดสิ้นสุดใดจุดหนึ่งจากสองจุดนี้ ทำให้เกิดภาพที่มีพลวัตและมีมิติมากขึ้น โดยปกติแล้ว จุดสิ้นสุดทั้งสองจะอยู่ไกลออกไปทางซ้ายและขวาของภาพ แม้จะอยู่นอกขอบเขตของภาพก็ตาม

หลังจากวาดเส้นช่วยลงบนภาพแล้ว จะได้ผลลัพธ์ตามภาพตัวอย่างนี้ครับ

จะเห็นได้ว่ามีจุดสิ้นสุดสองจุดที่อยู่ด้านนอกภาพ เนื่องจากเส้นขอบฟ้าขนานกับระนาบภาพ โดยปกติแล้วจุดสิ้นสุดทั้งสองจุดจะอยู่บนเส้นขอบฟ้า

สาเหตุที่ทัศนียภาพแบบ 2 จุดและแบบ 1 จุดแตกต่างกัน คือมุมมองและวิธีการสังเกตที่แตกต่างกันนั่นเอง

ในการวาดทัศนียภาพแบบ 1 จุด เราจะยืนอยู่ด้านหน้าของวัตถุเพื่อสังเกต ซึ่งพื้นผิวที่หันเข้าหาเราจะเป็นระนาบปกติที่ไม่มีการบิดเบี้ยวผิดรูป ในทางกลับกัน การวาดทัศนียภาพแบบ 2 จุด เราจะมองวัตถุจากมุมใดมุมหนึ่ง ทำให้มองเห็นด้านข้างสองด้าน (ยกเว้นด้านบนหรือด้านล่าง) ระนาบทั้งหมดจะบิดเบี้ยว และขอบของระนาบจะลู่เข้าหาจุดสิ้นสุด

เพื่อให้เห็นภาพความแตกต่าง ลองจินตนาการว่าคุณกำลังยืนอยู่ในโถงทางเดินที่ยาวเหยียด (ทัศนียภาพแบบ 1 จุด) เทียบกับการยืนอยู่ตรงหัวมุมถนนที่มีอาคารรายล้อมอยู่ (ทัศนียภาพแบบ 2 จุด) ในโถงทางเดิน เส้นทั้งหมดจะดูเหมือนมาบรรจบกันที่จุดเดียวในระยะไกล แต่ในทิวทัศน์เมือง เส้นต่างๆ จะลู่เข้าหาจุดที่แตกต่างกันสองจุด ซึ่งสร้างภาพการแสดงพื้นที่ที่ซับซ้อนและสมจริงกว่านั่นเอง

วิธีการวาดทัศนียภาพแบบ 2 จุด มักถูกนำมาใช้ในการวาดลักษณะภายนอกของอาคาร เช่น การวาดฉากหลังในการ์ตูน เป็นต้น ในการนำทัศนียภาพแบบ 2 จุดไปใช้ ควรระวังอย่าให้ระยะห่างระหว่างจุดสิ้นสุดทั้งสองใกล้กันจนเกินไป เพราะจะทำให้ภาพบิดเบี้ยวได้ ควรเว้นระยะจุดสิ้นสุดให้ห่างกันมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในขอบเขตที่เหมาะสม

ขั้นตอนการสอน: วิธีวาดทัศนียภาพทีละขั้นตอน

ในเมื่อคุณเข้าใจแนวคิดพื้นฐานของทัศนียภาพแบบ 1 จุดและ 2 จุดแล้ว เรามาเริ่มลงมือทำตามแบบฝึกหัดทีละขั้นตอนกันเลย ไม่ว่าคุณจะใช้กระดาษและดินสอ หรือเมาส์ปากกาวาดรูป การทำตามขั้นตอนต่อไปนี้จะช่วยให้ง่ายขึ้นอย่างแน่นอน

ทัศนียภาพแบบ 1 จุด (One-point Perspective)

ขั้นตอนที่ 1: ขั้นแรก ให้วาดเส้นขอบฟ้าลงบนกระดาษ แล้ววาดจุดสิ้นสุดหนึ่งจุดบนเส้นนั้น จากนั้นจึงวาดรูปสี่เหลี่ยมหลายๆ รูปตรงไหนก็ได้ ยิ่งด้านของสี่เหลี่ยมยาวเท่าไร ลูกบาศก์ที่ได้ก็จะดูใกล้เรามากขึ้นเท่านั้น

ขั้นตอนที่ 2: ต่อไป ให้ลากเส้นช่วยจากมุมทั้งสามของสี่เหลี่ยมที่อยู่ใกล้จุดสิ้นสุดไปบรรจบกับจุดสิ้นสุดนั้น คุณสามารถใช้สีที่อ่อนกว่าหรือเส้นประเพื่อแยกความแตกต่างจากเส้นของลูกบาศก์จริงได้ครับ

ขั้นตอนที่ 3: เติมส่วนที่เหลือของลูกบาศก์ให้เต็ม คุณสามารถกำหนดความกว้างได้อย่างอิสระตามความชอบของตัวเอง คุณก็จะได้ลูกบาศก์สามลูกในพื้นที่นี้ ลูกบาศก์เหล่านี้วาดด้วยทัศนียภาพแบบ 1 จุด โดยหันด้านหน้าเข้าหาคุณ

ทัศนียภาพแบบ 2 จุด (Two-point Perspective)

ขั้นตอนที่ 1: ขั้นแรก ให้วาดเส้นขอบฟ้าเหมือนกับการวาดทัศนียภาพแบบ 1 จุด จากนั้นจึงวาดจุดสิ้นสุดสองจุดที่ปลายทั้งสองข้างของเส้นนั้น

ขั้นตอนที่ 2: ถัดไป ให้วาดเส้นแนวตั้งที่เป็นส่วนที่อยู่ใกล้สายตาคุณมากที่สุด ณ ตำแหน่งใดก็ได้ที่อยู่ระหว่างจุดสิ้นสุดทั้งสองจุด จากนั้นใช้เส้นนี้เป็นเกณฑ์เพื่อลากเส้นอีกสี่เส้นเชื่อมต่อไปยังจุดสิ้นสุดทั้งสองจุด

ขั้นตอนที่ 3: ลากเส้นเชื่อมความสูงทั้งสองด้านเข้ากับจุดสิ้นสุดที่ยังไม่ได้ใช้ และเติมเส้นที่เหลือของลูกบาศก์ให้เต็ม คุณก็จะได้ลูกบาศก์ที่วาดด้วยทัศนียภาพแบบ 2 จุด

คุณได้ลองวาดดูแล้วหรือยัง? แค่ทำตามขั้นตอนด้านบนแล้วสร้างลูกบาศก์เพิ่มขึ้นอีกหลายๆ ลูก ภาพด้านล่างยังมีลูกบาศก์ลูกหนึ่งที่ความสูงของมันตัดกับเส้นขอบฟ้า คุณรู้หรือไม่ว่าทำไมลูกบาศก์ลูกอื่นถึงมองเห็นได้สามด้าน แต่ลูกนี้กลับมองเห็นได้แค่สองด้าน เรามาหาคำตอบกันในส่วนแสดงความคิดเห็น!

เริ่มต้นใช้งานเมาส์ปากกา XPPen

หากคุณกำลังมองหา เมาส์ปากกา (drawing tablet) คุณภาพสูงเพื่อฝึกวาดทัศนียภาพแบบ 2 จุด เราขอแนะนำ XPPen Artist Pro 16 (Gen 2) อุปกรณ์นี้เป็นเมาส์ปากกาที่ขายดีที่สุดในตลาด และได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลามจากทั้งศิลปินและนักออกแบบ

Artist Pro 16 (Gen 2)  โดดเด่นด้วยคุณภาพการผลิตและคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยม ตัวเครื่องทำจากวัสดุคุณภาพสูง พร้อมดีไซน์ที่ดูเรียบหรูและทันสมัย หน้าจอมีขนาดใหญ่และความละเอียดสูงถึง 2560 × 1600 WQXGA ให้ภาพที่คมชัดราวกับแก้ว รับรองมาตรฐาน TÜV SÜD Low Blue Light คุณจึงไม่ต้องคอยหรี่ตาจากแสงสีฟ้าหรือแสงสะท้อนบนหน้าจอ นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีตรวจจับแรงกดขั้นสูงที่ช่วยให้ควบคุมเส้นได้อย่างแม่นยำทั้งยังรองรับแรงกดสูงสุด 16,384 ระดับ

ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาเมาส์ปากกาที่ช่วยให้คุณสร้างสรรค์ผลงานศิลปะคุณภาพระดับมืออาชีพได้ ก็ไม่ต้องมองหาที่ไหนอีกแล้วครับ

XPPen Artist Pro 16 (Gen 2)

บทความต้นฉบับ: 

Easy 2-Point Perspective Drawing for Beginners | XPPen

เปรียบเทียบรุ่น