เมาส์ปากกา (Drawing Tablet) คืออะไร ทำงานอย่างไร และใช้ทำอะไรได้บ้าง

ณ ตอนนี้ความนิยมของภาพดิจิทัล พุ่งสูงขึ้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากเนื้อหาออนไลน์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และแอปพลิเคชั่นทางอินเทอร์เน็ตได้เข้ามามีบทบาทในทุกแง่มุมของชีวิตประจำวัน และด้วยความต้องการสายงานออกแบบ ภาพวาด และภาพประกอบใหม่ๆ อย่างไม่หยุดหย่อน เมาส์ปากกา (Drawing Tablets) จึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นเครื่องมือหลักในการสร้างสรรค์ภาพดิจิทัล

ในอดีต ศิลปินต้องมีสมุดสเก็ตช์หรือผืนผ้าใบ พกดินสอ ปากกา หรือพู่กันติดตัวไว้เสมอ เพื่อสร้างสรรค์ผลงานเมื่อเกิดแรงบันดาลใจ แต่ในปัจจุบันนี้ เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่ายว่าทำไมเมาส์ปากกาจึงเข้ามาทำหน้าที่เป็นสมุดสเก็ตช์หรือผืนผ้าใบสำหรับนักสร้างสรรค์ยุคใหม่ เพราะอุปกรณ์เหล่านี้มีน้ำหนักเบา ดีไซน์เพรียวบาง และพกพาสะดวก คุณต้องการเพียงแค่ตัวเมาส์ปากกาและปากกาสไตลัส ก็เหมือนมีสตูดิโอศิลปะดิจิทัลที่ครบครัน ซึ่งสามารถนำติดตัวไปได้ทุกที่

ในบทความนี้ เราจะอธิบายว่าเมาส์ปากกาคืออะไร ทำงานอย่างไร และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้อย่างไรบ้าง เมื่อคุณเข้าใจถึงความสามารถของเมาส์ปากกาแล้ว คุณก็อาจจะค้นพบวิธีการที่จะนำเมาส์ปากกาไปใช้ในกระบวนการสร้างสรรค์ของตัวคุณเองก็เป็นได้

“ ใช้ทำอะไร? “

เนื่องจากภาพถ่ายและภาพประกอบมีความสำคัญไม่แพ้เนื้อหาที่เป็นตัวอักษรเลยทีเดียว 

ภาพดิจิทัลจึงเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งของเนื้อหาออนไลน์ เพราะช่วยดึงดูดความสนใจของผู้ชม ทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำ แสดงวิธีการใช้งานของผลิตภัณฑ์ และช่วยให้ผู้ใช้สามารถจินตนาการถึงการมีปฏิสัมพันธ์กับสินค้าและบริการเหล่านั้นได้

เมาส์ปากกา หรือที่รู้จักกันในชื่อ กราฟิกแท็บเล็ต (graphics tablet) คืออุปกรณ์ที่ประกอบด้วยแผ่นกระดานหรือพื้นผิวที่ไวต่อแรงกดของปากกา สไตลัส (stylus) เมื่อใช้คู่กับปากกาสำหรับวาด ผู้ใช้สามารถวาดบนเมาส์ปากกาได้เหมือนกับการวาดบนกระดาษ และภาพก็จะปรากฏบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ โดยไม่จำเป็นต้องใช้เมาส์หรือคีย์บอร์ดเลย

ความง่าย และสะดวกสบายในการสร้างสรรค์งานศิลปะด้วยเมาส์ปากกาและปากกาสไตลัสเพียงอย่างเดียว ทำให้ไม่ว่าใครก็ตาม ตั้งแต่มือใหม่ ผู้ที่วาดเป็นงานอดิเรก นักเรียน ไปจนถึงมืออาชีพ ก็สามารถใช้อุปกรณ์เหล่านี้ในการสร้างสรรค์ แก้ไข และปรับแต่งภาพได้

ในโลกของเมาส์ปากกานั้น มีความหลากหลายอยู่ไม่น้อย โดยหลักๆ สามารถแบ่งออกได้เป็น กราฟิกแท็บเล็ต (Graphics Tablets), เพนดิสเพลย์ (Pen Displays), และ ออล-อิน-วันแท็บเล็ต (All-in-One Tablets)

กราฟิกแท็บเล็ต เป็นรูปแบบที่เรียบง่ายที่สุด ประกอบด้วยเพียงแผ่นกระดาน และปากกาสไตลัส ยกตัวอย่างเช่น Deco 640 ขณะที่ผู้ใช้วาดบนพื้นผิว ภาพจะปรากฏบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่ออยู่ อุปกรณ์ประเภทนี้ถือเป็นตัวเลือกที่มีราคาย่อมเยาที่สุด และเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นเข้าสู่โลกของศิลปะดิจิทัล

เพนดิสเพลย์ (Pen Displays) คือเมาส์ปากกาที่ไม่จำเป็นต้องใช้หน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อดูผลงานศิลปะ เพราะตัวอุปกรณ์ทำหน้าที่เป็นทั้งเครื่องมือป้อนข้อมูลและหน้าจอแสดงผลในตัว แต่ยังคงต้องใช้คอมพิวเตอร์เพื่อรันซอฟต์แวร์ต่างๆ เช่น Photoshop, Procreate หรือ Illustrator

XPPen Artist Pro 24 (Gen 2) 4K จัดอยู่ในหมวดหมู่นี้ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูผลงานของตนเองบนหน้าจอแสดงผลขนาด 23.8 นิ้ว ผู้ใช้สามารถวาดลงบนหน้าจอได้โดยตรงและเห็นภาพที่วาดแบบเรียลไทม์ เพนดิสเพลย์ให้ประสบการณ์การตอบสนองที่ฉับไว ทำให้รู้สึกใกล้เคียงกับการวาดบนกระดาษมากยิ่งขึ้น และด้วยฟังก์ชันที่ก้าวหน้ากว่านั้น จึงมาพร้อมกับราคาที่สูงกว่าด้วยเช่นกัน

ออล-อิน-วันแท็บเล็ต (All-in-one tablets) ก้าวไปอีกขั้น โดยทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์กราฟิกที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ในการส่งข้อมูลกราฟิก เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้มีระบบปฏิบัติการ, การ์ดจอ (graphics card), แรม (RAM) และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลในตัว จึงเป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานได้หลากหลายอย่างแท้จริง

อุปกรณ์เหล่านี้เป็นเมาส์ปากกาที่มีราคาสูงที่สุด ซึ่งมักมีราคาสูงกว่า 2,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ราคาใกล้เคียงกับแล็ปท็อปคอมพิวเตอร์มากกว่าเมาส์ปากกาแบบธรรมดา

แล้วอะไรคือกลไกที่ทำให้เมาส์ปากกาทำงานได้? แรงกดจากปากกาสไตลัสแปลงไปเป็นภาพวาดที่สวยงาม ภาพประกอบสีสันสดใส และงานเรนเดอร์ที่มีรายละเอียดได้อย่างน่าอัศจรรย์ได้อย่างไร ในเมื่อเราเห็นทั้งหมดนี้ในเนื้อหาดิจิทัลที่เราใช้งานอยู่ทุกวัน ?

เพื่อให้สิ่งนี้เกิดขึ้น เมาส์ปากกาจะใช้ เทคโนโลยี EMR หรือ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเหนี่ยวนำ (Electromagnetic Resonance) ควบคู่ไปกับการตรวจจับแรงกด (pressure sensitivity) ซึ่งเลียนแบบประสบการณ์การวาดโดยตรงบนกระดาษหรือผืนผ้าใบจริง

ปากกาสไตลัสที่ใช้กับเมาส์ปากกาจะมีขดลวดที่ปล่อยสัญญาณแม่เหล็กออกมา เมื่อปลายปากกาแตะลงบนพื้นผิวของเมาส์ปากกา ตารางลวดที่อยู่ใต้พื้นผิวจะตรวจจับตำแหน่งของสัญญาณแม่เหล็กนั้น และส่งข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่ออยู่         นั่นหมายความว่า ขณะที่ผู้ใช้วาดบนเมาส์ปากกาด้วยปากกาสไตลัส แรงกดจะถูกแปลงเป็นข้อมูลดิจิทัลที่คอมพิวเตอร์รับและแสดงผลบนหน้าจอ

ความสามารถในการตรวจจับแรงกด (pressure sensitivity) ของเมาส์ปากกา หมายความว่าอุปกรณ์เหล่านี้สามารถส่งผ่านแรงกดจากปากกาสไตลัสได้ในระดับนับพันระดับ ทำให้อุปกรณ์ตอบสนองได้อย่างละเอียดต่อแรงกดที่ศิลปินใช้ในการวาด ตั้งแต่เบาไปจนถึงหนัก และทุกระดับที่อยู่ระหว่างนั้น ผู้ใช้สามารถกดน้ำหนักมือมากขึ้นสำหรับเส้นที่หนา และใช้แรงกดเบาๆ สำหรับเส้นที่บางเฉียบ สำหรับที่สุดของเทคโนโลยีความไวต่อแรงกด เมาส์ปากกา XPPen Artist Pro 24 (Gen 2) 4K สามารถรับรู้ได้ถึง 16,384 ระดับ ซึ่งทำให้เป็นเมาส์ปากกาที่ไวต่อแรงกดที่สุดในบรรดาอุปกรณ์ประเภทเดียวกัน

นอกจากนี้ เมาส์ปากกาในปัจจุบันส่วนใหญ่มักมาพร้อมกับ เทคโนโลยีป้องกันการสัมผัสจากฝ่ามือ (Palm Rejection) ซึ่งหมายความว่าอุปกรณ์ใช้ระบบอัลกอริทึมในการแยกแยะระหว่างฝ่ามือของผู้ใช้กับปากกาสไตลัส ด้วยเหตุนี้ อุปกรณ์จึงสามารถรับสัญญาณแรงกดที่ละเอียดที่สุดจากปากกาสไตลัสได้ แต่ถ้าผู้ใช้วางมือลงบนพื้นผิวโดยไม่ตั้งใจ ก็จะไม่มีการสร้างรอยใดๆ ขึ้นมา

สองเทคโนโลยีขั้นสูงนี้ ได้แก่ ความไวต่อแรงกด และ การป้องกันการสัมผัสจากฝ่ามือ ทำให้การวาดภาพด้วยปากกาสไตลัสบนเมาส์ปากกา มีความรู้สึกใกล้เคียงกับการวาดด้วยเครื่องมือแบบดั้งเดิมอย่างปากกาหรือดินสออย่างมาก ศิลปินสามารถแรเงาเบาๆ หรือลงน้ำหนักเส้นให้เข้มขึ้นด้วยปากกาสไตลัสได้ พร้อมทั้งวางมือบนหน้าจอได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดรอยที่ไม่ต้องการ

การเชื่อมต่อเมาส์ปากกาเข้ากับคอมพิวเตอร์นั้นมีตัวเลือกที่สะดวกสบายหลายวิธี สำหรับการเชื่อมต่อแบบใช้สาย คุณสามารถใช้เพียงสาย USB-C to USB-C เสียบเข้ากับพอร์ต USB-C ของเมาส์ปากกาและคอมพิวเตอร์ได้เลย

เมาส์ปากกาหลายรุ่นยังรองรับ Bluetooth ซึ่งช่วยให้สามารถเชื่อมต่อแบบไร้สายได้ ตัวเมาส์ปากกาสามารถเชื่อมต่อผ่านตัวรับสัญญาณบลูทูธ (Bluetooth receiver) เช่นเดียวกับการใช้เมาส์ไร้สาย เมื่อเสียบตัวรับสัญญาณเข้ากับคอมพิวเตอร์และเปิดเครื่องเมาส์ปากกา ก็จะสามารถเชื่อมต่อได้ทันที

นอกจากนี้ การเชื่อมต่อแบบไร้สายยังสามารถทำได้โดยตรงบนอุปกรณ์ Windows หรือ macOS เพียงแค่เปิดเครื่องเมาส์ปากกาและค้นหาอุปกรณ์เท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น เมื่อใช้เมาส์ปากกา Deco Pro Gen 2 series หลังจากเปิดเครื่องแล้ว ให้กดปุ่มเปิด/ปิดค้างไว้ 6 วินาที ตัวแท็บเล็ตก็จะเริ่มค้นหาการเชื่อมต่อบลูทูธกับคอมพิวเตอร์

เมาส์ปากกาสามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์ที่หลากหลาย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่น่าสนใจ ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟน Mac, ผู้ใช้ Windows หรือใช้งานอุปกรณ์ Android คุณก็จะสามารถหาเมาส์ปากกาที่ตรงกับความต้องการของคุณได้ ผลิตภัณฑ์ของ XPPen อย่าง Deco Pro (Gen 2) รองรับระบบปฏิบัติการ Windows 7 หรือใหม่กว่า, macOS 10.10 หรือใหม่กว่า, Chrome OS 88 หรือใหม่กว่า, Android 10.0 รวมถึงอุปกรณ์ iOS และ Linux บางรุ่น ทำให้สามารถปรับใช้งานได้อย่างกว้างขวาง

เมาส์ปากกาได้เปิดโลกแห่งความเป็นไปได้สำหรับผู้ที่ต้องการทดลองสร้างสรรค์งานศิลปะ แต่ก่อนหน้านี้อาจไม่มีความรู้หรือเครื่องมือที่จำเป็นมาก่อน ด้วยแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ศิลปะที่มีให้เลือกหลากหลายในตลาด ทำให้การสร้างสรรค์งานศิลปะเข้าถึงได้ง่ายกว่าที่เคยเป็นมา สำหรับภาพประกอบทุกประเภท ความไวต่อแรงกด ของเมาส์ปากกาช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างสรรค์ผลงานสีสันสดใสและอิ่มตัว หรือภาพร่างที่ลงด้วยเส้นบางๆ คล้ายดินสอ

เมาส์ปากกาช่วยให้การทดลองเป็นเรื่องง่าย เพราะคุณสามารถ ลบและยกเลิกเส้น ได้อย่างง่ายดาย หรือวาดซ้ำๆ ได้ทันทีที่คุณต้องการ ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาลบเส้นบนกระดาษ หรือลงสีทับส่วนที่ไม่ต้องการอีกต่อไป เพราะทุกอย่างเป็นดิจิทัลทั้งหมด

ด้วยซอฟต์แวร์อย่าง Procreate, Adobe Photoshop หรือ Affinity Photo คุณสามารถสร้างภาพวาดดิจิทัลที่พื้นผิวให้ดูเหมือนรอยแปรงจริงๆ ได้ด้วยปากกาสไตลัสเพียงอันเดียว ผลลัพธ์ที่ดูสมจริงนี้เป็นเพียงหนึ่งในข้อดีของการใช้เมาส์ปากกาเท่านั้น ศิลปินยังสามารถทดลองใช้ หัวแปรง (brush types) และพื้นผิว (textures) ที่แตกต่างกัน รวมถึงเอฟเฟกต์ภาพนับร้อย เพื่อสร้างสรรค์งานศิลปะแนวคิด (concept art) ที่เป็นเอกลักษณ์ หรือออกแบบตัวละครที่มีความหลากหลายได้อย่างไม่จำกัด ทั้งหมดนี้ทำได้ด้วยเมาส์ปากกาเพียงเท่านั้น

นอกจากนี้ การวาดมังงะ (manga) ยอดนิยมที่มีสไตล์กราฟิกที่โดดเด่น หรือการทดลองสร้าง การ์ตูนช่อง (comics) ก็เป็นเรื่องง่ายด้วยซอฟต์แวร์ที่มีให้ใช้งานสำหรับอุปกรณ์เหล่านี้

ในแวดวงธุรกิจ เมาส์ปากกาได้เปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับมืออาชีพในสายงานศิลปะและการออกแบบ การทดลองแนวคิดด้านภาพที่หลากหลายกลายเป็นเรื่องที่ประหยัดต้นทุนมากขึ้น เนื่องจากไม่ต้องสิ้นเปลืองกระดาษหรือวัสดุทางกายภาพใดๆ คุณสามารถลบและสร้างแนวคิดใหม่ได้ง่ายๆ เมื่อโครงการมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไป

สถาปนิกมืออาชีพ ใช้ความยืดหยุ่นของเมาส์ปากกาในการวาดตามข้อกำหนดของลูกค้าในรูปแบบดิจิทัล และปรับเปลี่ยนขนาดหรือแบบแปลนก่อนที่จะพิมพ์ลงบนกระดาษขนาดใหญ่

นักแต่งภาพ สามารถสแกนภาพถ่าย ซูมเข้าไปปรับแต่งรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ และจัดการภาพได้ทันทีโดยไม่ส่งผลกระทบต่อภาพต้นฉบับ

ยิ่งไปกว่านั้น เมาส์ปากกายัง พกพาสะดวก และใช้พื้นที่น้อย จึงสามารถนำติดตัวไปประชุมกับลูกค้า ที่บ้าน หรือที่ทำงานได้อย่างง่ายดาย

ในแวดวงการศึกษา เมาส์ปากกาเข้ากันได้อย่างลงตัวกับชั้นเรียนศิลปะ นักเรียนสามารถเรียนรู้เทคนิคการแรเงา การแสดงแสงและเงา และการทำงานกับพื้นผิวและสื่อต่างๆ ได้ทั้งหมดในรูปแบบดิจิทัล ซึ่งช่วย ลดต้นทุนด้านวัสดุ ให้ต่ำที่สุด เพราะสีและพู่กันอาจมีราคาแพงและเป็นภาระค่าใช้จ่ายสำหรับนักเรียนหลายคนในโรงเรียน ครูสอนศิลปะสามารถสลับไปมาระหว่างสื่อต่างๆ และให้นักเรียนได้ลองใช้ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนซื้อเครื่องมือ “ของจริง”

นอกจากชั้นเรียนศิลปะแล้ว เมาส์ปากกายังช่วยให้นักเรียนสามารถ จดบันทึก และ จัดเก็บข้อมูลจำนวนมาก ได้โดยไม่เปลืองพื้นที่ นักเรียนยังสามารถผนวกการบันทึกของตนเองเข้ากับสื่อนำเสนอแบบดิจิทัลของครูผู้สอนได้อย่างสะดวก

อุปกรณ์เหล่านี้มีประโยชน์อย่างมากในการวาดกราฟในวิชาคณิตศาสตร์ หรือการร่างภาพไดอะแกรมของแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ รวมถึงการแสดงภาพระบบในวิชาเคมีหรือชีววิทยา

เมาส์ปากกาก็เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับการนำเสนอในชั้นเรียนเช่นกัน เพราะช่วยให้สามารถผสมผสานงานศิลปะและการออกแบบเข้ากับข้อความได้อย่างง่ายดาย ทำให้สไลด์และอินโฟกราฟิกน่าสนใจ และดึงดูดใจมากขึ้น สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับงานของนักเรียนที่ชื่นชอบการใส่แนวคิดภาพความคิดสร้างสรรค์ของตนเองลงในงานต่างๆ

เมาส์ปากกาได้เปิดทางให้ผู้คนในวงกว้างสามารถเรียนรู้การสร้างสรรค์งานศิลปะในสื่อและสไตล์ที่หลากหลายได้ง่ายขึ้น ทั้งหมดนี้ทำได้ด้วยอุปกรณ์ขนาดกะทัดรัดและปากกาสไตลัสเพียงชิ้นเดียว

เมาส์ปากกาได้เชื่อมโยงเส้นแบ่งระหว่างศิลปะกายภาพและศิลปะดิจิทัลเข้าด้วยกัน โดยใช้เทคโนโลยีที่ตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของการวาดที่เป็นธรรมชาติ และสามารถแยกแยะระหว่างปากกาสไตลัสกับฝ่ามือได้ อุปกรณ์เหล่านี้มีความยืดหยุ่นสูง และสามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้หลายประเภท ตั้งแต่ Mac, Windows ไปจนถึงอุปกรณ์ Android

ความผิดพลาดไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป เพราะการลบด้วยเมาส์ปากกาทำได้ง่ายเพียงแค่คลิกเดียว และแม้จะลบถึง 10 ครั้ง ก็ไม่ทำให้กระดาษสึกหรอ ไส้ดินสอหมด หรือวัสดุเสียหาย ความสามารถในการทดลอง ทำผิดพลาด ลองใช้ชุดสีที่แตกต่างกัน และการลงเส้นแบบต่างๆ ล้วนมอบอิสระในการสร้างสรรค์ที่ไร้ขีดจำกัด

ความยืดหยุ่นของเมาส์ปากกานั้นไม่มีใครเทียบได้ เมื่อพิจารณาว่ามันสามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ต่างๆ ได้ อุปกรณ์เหล่านี้จึงสามารถกลายเป็นเครื่องมือสำหรับผู้ที่วาดเป็นงานอดิเรก นักวาดการ์ตูนที่ต้องการเป็นมืออาชีพ หรือนักวาดภาพประกอบมืออาชีพได้ เมาส์ปากกาเป็นเครื่องมือที่เหมาะสมที่สุดในทุกสภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นในโรงเรียนหรือที่ทำงาน เพราะมันสามารถเปลี่ยนเป็นผืนผ้าใบอะคริลิก หรือสมุดบันทึกธรรมดาๆ ได้ตามความต้องการของผู้ใช้

ด้วยการใช้งานที่หลากหลายไม่รู้จบ และ “เครื่องมือ” ศิลปะนับร้อยที่ปลายนิ้วของคุณ เมาส์ปากกา อาจเป็นสิ่งที่คุณต้องการเพื่อเปลี่ยนแนวคิดของคุณให้กลายเป็นงานศิลปะบนหน้าจอ หากคุณยังใหม่กับอุปกรณ์นี้ ลองพิจารณา XPPen Artist Pro 24 (Gen 2) 4K หรือ XPPen Artist Pro 24 (Gen 2) 165 Hz ซึ่งยอดเยี่ยมสำหรับมือใหม่ เพราะช่วยให้คุณรู้สึกพึงพอใจกับการได้เห็นผลงานที่กำลังวาดไปพร้อมๆ กันได้

แต่ถ้าคุณเคยใช้เมาส์ปากกามาก่อน และสามารถก้าวข้ามช่วงการเรียนรู้ที่ต้องวาดโดยมองจอคอมพิวเตอร์ได้แล้ว XPPen Deco 640 เป็นรุ่นที่ประหยัดและมีคุณสมบัติที่น่าประทับใจ เช่น ความไวต่อแรงกดที่เหนือกว่า พื้นผิวที่ให้สัมผัสเหมือนกระดาษ และปากกาสไตลัสที่ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่

ไม่ว่าคุณจะเลือกเมาส์ปากการุ่นใด สิ่งสำคัญคือการ เริ่มต้นทดลอง ใครจะรู้? คุณอาจพบว่าเมาส์ปากกานี่แหละคือสิ่งที่ช่วยกระตุ้นด้านศิลปะในตัวคุณ และทำให้คุณค้นพบอัจฉริยภาพในการสร้างสรรค์ของตัวเองได้ในที่สุด!

บทความต้นฉบับ:

https://www.xp-pen.com/blog/drawing-tablet-guide.html